เว็บไซต์ NaturalSoapBase

เมือกหอยทาก คืออะไร ? มีสรรพคุณช่วยเรื่องผิวได้จริงหรอ ?!

เมือกหอยทาก, เมือกหอยทาก สรรพคุณ
Image Credit : freepik.com

เมือกของหอยทากกลายเป็นส่วนผสมยอดฮิตในสกินแคร์ปัจจุบันไปแล้ว โดยเฉพาะอิทธิพลของครีมบำรุงผิวจากเกาหลีที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมหลักจนกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก ถึงแม้ชื่ออาจจะฟังดูไม่น่าใช้สักเท่าไหร่แต่ต้องบอกเลยว่าเมือกหอยทาก สรรพคุณนั้นสามารถใช้บำรุงผิวได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมองไปทางไหนก็ต้องเจอ แต่บางคนก็ยังสงสัยว่า เมือกหอยทาก คืออะไรใช้แล้วดีต่อผิวจริงหรือแค่กระแส? Natural Soap Base จะพาไปทำความรู้จักกันเลยค่ะ

เมือกหอยทาก คืออะไร ? มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวจริงหรือไม่ ?!

ครีมหอยทาก หรือ โลชั่นบำรุงผิวหอยทาก คือการนำสารสกัดของเมือกหอยทากมาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เป็นหอยทากสายพันธุ์ Cryptomphalus Aspersa Mollusk หรือหอยทากสีน้ำตาลที่สามารถพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ โดยเมือกของหอยทากนั้นถูกนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวมานานแล้วเนื่องจากมีงานวิจัยที่พบว่า ในเมือกของหอยทากนั้นมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวอยู่มากและยังมีความอ่อนโยนต่อผิวอีกด้วย ซึ่งหอยทากทุกตัวสามารถผลิตเมือกนี้ได้ เพราะต้องใช้เพื่อลดแรงเสียดทานในการเคลื่อนที่เนื่องจากหอยทากเคลื่อนที่โดยการใช้ลำตัวถูไปตามพื้นที่ขรุขระและด้วยเหตุนี้เองเมือกจากหอยทากจึงสามารถช่วยซ่อมแซมผิวของมันได้ด้วย และสามารถนำมาใช้กับมนุษย์ได้ดีเช่นกัน ไปดูกันเลยค่ะว่าในเมือกหอยทาก สรรพคุณจะช่วยบำรุงผิวได้อย่างไรบ้าง ?

เมือกหอยทาก สรรพคุณบำรุงผิวมีอะไรบ้าง ?

1. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

เมือกหอยทาก, เมือกหอยทาก สรรพคุณ
Image Credit : freepik.com

สารเมือกของหอยทากมีคุณสมบัติที่คล้ายกับแตงกวา สรรพคุณสามารถช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีมาก เนื่องจากมีสารอัลแลนโทอิน (Allantoin) ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการระคายเคืองผิวรวมทั้งช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้แก่ผิวได้ด้วย การใช้เมือกของหอยทากเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจึงสามารถช่วยปลอบประโลมผิวได้เป้นอย่างดี เหมาะสำหรับผุ้ที่มีอาการแพ้หรือใช้สารเสตียรอยด์มาเป็นเวลานานและต้องการพักหน้า นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลได้ดีอีกด้วย

ชวนแวะช้อปกับ Natural Soap Base :

หากคุณกำลังมองหา “เบสเมือกหอยทาก” ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ลองแวะมาชม มาเลือกซื้อสินค้าของเรากันได้ที่นี่เลยค่ะ

2. ช่วยผลัดเซลล์ผิว

เมือกหอยทาก สรรพคุณสามารถใช้เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบของกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ซึ่งกรดชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ดีในการช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำให้มีผิวที่สุขภาพดีขึ้น และส่งผลดีในการช่วยลดรอยจุดด่างดำ รอยหลุมสิว รอยแผลเป็น รอยแตกลายต่าง ๆ บนร่างกาย ทำให้มีผิวที่เนียนสวยขึ้นด้วย

3. ผิวขาวกระจ่างใส

นอกจากจะมีสรรพคุณในการช่วยผลัดเซลล์ผิวแล้ว เมือกหอยทาก สรรพคุณยังช่วยปรับให้มีผิวที่ขาวกระจ่างใสได้ด้วย เพราะมีส่วนประกอบของโปรตีนที่มีคุณสมบัติเป็นอาหารผิวที่ดี ช่วยบำรุงให้ผิวค่อย ๆ ขาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีผิวสม่ำเสมอกัน

ชวนแวะช้อปกับ Natural Soap Base :

หากคุณกำลังมองหา “ชุดสครับน้ำตาลเมือกหอยทาก” ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ลองแวะมาชม มาเลือกซื้อสินค้าของเรากันได้ที่นี่เลยค่ะ

4. ต้านริ้วรอย

เมือกหอยทาก, เมือกหอยทาก สรรพคุณ
Image Credit : freepik.com

เมือกใสของหอยทากมีสารสำคัญที่เรียกว่า “กรดไฮยาลูโรนิก” ซึ่งเป็นสารสกัดที่นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างมากเนื่องจากช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ดี กรดไฮยาลูโรนิกจะทำหน้าที่ในการช่วยป้องกันไม้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และมีความสามารถในการดูดน้ำและพยุงเนื้อเยื่อให้แข็งแรงได้ ทำให้ผิวมีความกระชับยิ่งขึ้น และมีผิวที่เปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ และช่วยกระชับรูขุมชนให้ผิวดูเนียนละเอียด เมื่อใช้ควบคู่กับวิธีนวดหน้า ลดริ้วรอยที่ถูกต้องก็ยิ่งช่วยทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

5. รักษาสิว

เมือกหอยทากสามารถใช้เพื่อรักษาสิวได้ดีมาก เนื่องจากมีเปปไทด์ (Peptides) ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ ส่งผลทำให้สามารถรักษาสิวได้จากต้นเหตุ และยังมีคุณสมบัติที่ช่วยลดความมันบนใบหน้าและปรับสมดุลสภาพผิวได้ด้วย ทำให้มีผิวที่สุขภาพดียิ่งขึ้นและป้องกันการเกิดสิวใหม่

ชวนแวะช้อปกับ Natural Soap Base :

หากคุณกำลังมองหา “ชุดเมือกหอยทาก” ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ลองแวะมาชม มาเลือกซื้อสินค้าของเรากันได้ที่นี่เลยค่ะ

เรานำเมือกหอยทากมาใช้ประโยชน์ได้ยังไงบ้าง ?

เมือกหอยทาก, เมือกหอยทาก สรรพคุณ
Image Credit : vecteezy.com

1. รักษาแผล

หลังจากที่มีงานวิจัยพบว่าเมือกของหอยทากมีสรรพคุณที่สามารถช่วยสมานแผลได้ก็มีการทำมาทดลองใช้ทดสอบในผู้ที่มีแผลไฟไหม้ โดยให้ครีมที่มีส่วนผสมของเมือกชนิดนี้ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกันนาน 14 วันก็พบว่าสามารถรักษาแผลได้จนหายสนิทดี รวมทั้งใช้เป็นยาสมานแผลอื่น ๆ ได้ด้วย

2. ยาชาเฉพาะ

เนื่องจากเมือกนี้ถูกผลิตออกมาจากหอยทากเพื่อป้องกันไม่ให้รู้สึกเจ็บเวลาเคลื่อนที่ จึงทำให้มีคุณสมบัติที่สามารถใช้เป้นยาชาเฉพาะที่ได้ด้วย โดยคุณสมบัตินี้ไม่ได้พบเฉพาะในหอยทากเท่านั้นแต่ยังสามารถพบได้ในเมือกของหอยหลายชนิด เช่น หอยทากทะเล

3. ยารักษาทางเดินหายใจ

มีงานวิจัยพบว่า น้ำจากเมือกของหอยทากมีสรรพคุณที่ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจผ่อนคลายและทำให้รู้หายใจได้สะดวกขึ้นได้ จึงสามารถนำมาใช้เป็นยาช่วยแก้คัดจมูกได้ดี

4. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

แน่นอนว่าเมือกของหอยทากถูกนำมาใช้ประโยชน์สำหรับการบำรุงผิวมากที่สุดเพราะมีสรรพคุณที่ดีต่อผิวรอบด้านเลยทีเดียว ซึ่งก็มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้รับรองว่า เมือกหอยทากสามารถกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังได้ดี จึงทำให้มีผิวที่เปล่งปลั่งอ่อนเยาว์และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นได้ ทั้งยังยังมีสารชนิดอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงผิวด้วย จึงไม่แปลกใจเลยที่กระแสการดูแลผิวด้วยเมือกของหอยทากจะเป็นที่นิยมไปทั่วโลก

ข้อควรระวังในการใช้เมือกหอยทาก

การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของหอยทากควรเลือกป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ และมีเครื่องหมายอย.รองรับ เนื่องจากกระบวนการสกัดเมือกจากหอยทากควรมีขั้นตอนที่สะอาดมาก เพราะในเมือกของหอยทากมีเชื้อโคลิฟอร์ม หรือเชื้ออีโคไลอยู่ด้วย หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มตราฐานก็อาจทำให้ร่างกายติดเชื้อรุนแรงได้ ทำให้มีอาการระคายเคือง ผื่นแดงคัน มีสิวเห่อ เป็นฝี หรือในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือดเลยก็ได้

ถึงแม้เมือกหอยทากจะค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว แต่ก็เป็นสารสกัดที่มีเอนไซม์จากสัตว์อาจทำให้บางคนมีอาการแพ้ได้ จึงควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้งหากไม่มีอาการผิดปกติก็สามารถนำมาใช้ได้เลย ซึ่งสารสกัดเมือกจากหอยทากก็มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการเน้นบำรุงให้ผิวมีความชุ่มชื้นหรือต้องการเน้นบำรุงให้ผิวกระชับ ช่วยลดริ้วรอยหรือรอยแผลต่าง ๆ และยังเป็นส่วนผสมที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย ในปัจจุบันเมือกของหอยทากจึงเป็นสารสกัดอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมากในวงการด้านความงาม

“มองหา เบสสบู่ สินค้าเกี่ยวกับสบู่ อุปกรณ์ทำสบู่ สนใจผลิตสบู่ ทำ OEM, ODM ลองทักมาคุยกับเราได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ”


อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : kbeautyworld.com/blogs, stylecraze.com, healthshots.com, byrdie.com

Featured Image Credit : freepik.com/wirestock