เว็บไซต์ NaturalSoapBase

ทำน้ำหอมใช้เอง ต้องทำยังไง ? ชวนคนรักกลิ่นมารู้วิธีทำใช้เอง !

ทำน้ำหอมใช้เอง, วิธีทำน้ำหอม
Image Credit : freepik.com

สำหรับคนที่รักกลิ่นหอม จะต้องชื่นชอบน้ำหอมอย่างแน่นอน และน้ำหอมที่มีขายในท้องตลาดนั้นก็มีมากมายหลายกลิ่นให้เลือก แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถ ทำน้ำหอมใช้เอง ได้ เพื่อสามารถเลือกกลิ่นที่เราชอบได้ทั้งหมด แถมยังไม่ต้องกังวลในเรื่องของคุณภาพ หรือตรวจสอบเลข อย ให้ยุ่งยากเพราะกลัวว่าน้ำหอมที่ซื้อมาจะไม่มี อย อีกด้วย หากคุณต้องการทำน้ำหอมให้มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง หรือกำลังมองหาไอเดียของขวัญทำเองที่ไม่ซ้ำใคร เรามาสนุกกับการสร้างกลิ่นของคุณเองด้วยวิธีทำน้ำหอม ที่ Natural Soap Base เอามาแนะนำกันดีกว่าค่ะ

ทำน้ำหอมใช้เอง ทำยังไง ? มาทำน้ำหอมกลิ่นใหม่ของตัวเองกัน !

ทำน้ำหอมใช้เอง, วิธีทำน้ำหอม
Image Credit : freepik.com

ก่อนที่เราจะไปทำน้ำหอมใช้เองนั้น เราต้องรู้จักสิ่งที่เรียกว่าโน้ตของน้ำหอมกันก่อน ซึ่งโน้ตจะเป็นตัวบ่งบอกกลิ่นระดับต่างๆ จากส่วนผสมในน้ำหอม เมื่อคุณฉีดน้ำหอมลงบนผิวของคุณ กลิ่นของน้ำหอมจะแบ่งระดับได้ดังนี้

1. Top notes

ท็อปโน้ตคือสิ่งที่คุณจะได้กลิ่นก่อนเป็นกลิ่นแรกหลังจากฉีดน้ำหอม และจางหายไปก่อนเช่นกัน โดยปกติกลิ่นจะหายไปราวๆ 10 ถึง 15 นาที ท็อปโน้ตยอดนิยม ได้แก่ โหระพา มะกรูด เกรปฟรุ๊ต ลาเวนเดอร์ มะนาว เลมอน มิ้นต์ โรสแมรี่ และส้มหวาน

ชวนแวะช้อปกับ Natural Soap Base :

หากคุณกำลังมองหา “น้ำหอมลาเวนเดอร์” ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ลองแวะมาชม มาเลือกซื้อสินค้าของเรากันได้ที่นี่เลยค่ะ

2. Middle notes

มิดเดิ้ลโน้ต หรือกลิ่นกลาง จะปรากฏขึ้นเมื่อท็อปโน้ตจางหายไป สิ่งเหล่านี้คือแก่นของน้ำหอม และเป็นตัวกำหนดว่าน้ำหอมเป็นโทนไหน เช่น โทนวู้ดดี้ เฟรช ฟรุตตี้หรือฟลอรัล มิดเดิ้ลโน้ตยอดนิยม ได้แก่ พริกไทยดำ กระวาน ดอกคาโมไมล์ อบเชย กานพลู ต้นสน มะลิ ตะไคร้ ลูกจันทน์เทศ กุหลาบ และกระดังงา

ชวนแวะช้อปกับ Natural Soap Base :

หากคุณกำลังมองหา “น้ำหอมกุหลาบ” ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ลองแวะมาชม มาเลือกซื้อสินค้าของเรากันได้ที่นี่เลยค่ะ

3. Base notes

เบสโน้ต จะช่วยเน้นและส่งเสริมกลิ่นกลางของน้ำหอมหรือที่เรียกว่าธีมของน้ำหอม เป็นฐานของกลิ่นน้ำหอม ทำให้กลิ่นติดทนนาน 4 – 5 ชั่วโมงบนผิวของคุณ เบสโน้ตยอดนิยม ได้แก่ ไม้ซีดาร์ ขิง ต้นสน ไม้จันทน์ วานิลลา มัสก์ และหญ้าแฝก

ชวนแวะช้อปกับ Natural Soap Base :

หากคุณกำลังมองหา “น้ำหอมวานิลลา” ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ลองแวะมาชม มาเลือกซื้อสินค้าของเรากันได้ที่นี่เลยค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำน้ำหอมใช้เอง

ทำน้ำหอมใช้เอง, วิธีทำน้ำหอม
Image Credit : freepik.com

ก่อนที่คุณจะทำน้ำหอมใช้เองนั้น หลังจากที่รู้จักโน้ตของกลิ่นต่างๆ แล้ว ให้เลือกกลิ่นที่คุณชอบ เพราะผู้หญิงประมาณ 90% รู้สึกมั่นใจเมื่อได้ฉีดน้ำหอมบนร่างกาย เพื่อสร้างน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง คุณสามารถรังสรรค์กลิ่นที่ชอบได้เลย โดยมีหลักเกณฑ์คือ เมื่อผสมน้ำหอม ขั้นแรกให้เพิ่มเบสโน้ต จากนั้นตามด้วยมิดเดิ้ลโน้ต และปิดท้ายด้วยท็อปโน้ตที่คุณเลือก โดยอัตราส่วนที่เหมาะที่สุดสำหรับการเบลนด์โน้ตคือ ท็อปโน้ต 30% มิดเดิลโน้ต 50% และเบสโน้ต 20% ซึ่งนักปรุงน้ำหอมบางคนแนะนำให้ผสมกลิ่นโน้ตที่โดดเด่นสูงสุด 3 ถึง 4 ตัว ด้วยกัน

นอกจากนี้ กระบวนการทำน้ำหอมใช้เอง จะเริ่มต้นด้วยน้ำมันตัวพา โดยตัวเลือกยอดนิยมได้แก่ โจโจ้บา สวีทอัลมอนด์ และน้ำมันเมล็ดองุ่น และสุดท้าย จะต้องเพิ่มตัวช่วยผสานส่วนผสมเข้าด้วยกัน และแอลกอฮอล์เป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะระเหยได้อย่างรวดเร็วและช่วยกระจายกลิ่นของน้ำหอมได้ ที่นิยมคือ วอดก้า 40 – 50% หรือแอลกอฮอล์เอทานอล 80% หรือสามารถใช้ขี้ผึ้งละลายได้หากต้องการน้ำหอมที่เป็นของแข็ง

ชวนแวะช้อปกับ Natural Soap Base :

หากคุณกำลังมองหา “น้ำมันโจโจ้บา” ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ลองแวะมาชม มาเลือกซื้อสินค้าของเรากันได้ที่นี่เลยค่ะ

วิธีทำน้ำหอมอย่างง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน

ทำน้ำหอมใช้เอง, วิธีทำน้ำหอม
Image Credit : freepik.com

การทำน้ำหอมใช้เองที่บ้านเป็นหนึ่งในเคล็ดลับการประหยัดเงินที่ดี เพราะวัตถุดิบบางอย่างก็สามารถหาได้ในบ้านของคุณ ทั้งยังช่วยให้คุณได้กลิ่นน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองอีกด้วย เรามาดูวิธีทำกันเลย

สิ่งที่ต้องเตรียม

  1. โน้ตน้ำหอมที่ต้องการ 3 – 4 กลิ่น
  2. น้ำมันตัวพา ½ ออนซ์
  3. น้ำมันหอมระเหย ขึ้นอยู่กับกลิ่นที่คุณต้องการ 6 – 7 หยดสำหรับท็อปโน้ต และอย่างละ 7 หยดสำหรับเบสโน้ตและมิดเดิ้ลโน้ต
  4. แอลกอฮอล์ 2 ½ ออนซ์
  5. น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ หรือกลีเซอรีน 5 หยด
  6. ตัวกรองกาแฟ
  7. ขวดแก้วสีเข้ม ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วหากเป็นวัสดุรีไซเคิล จำนวน 2 ขวด

ขั้นตอนการทำน้ำหอมใช้เอง

  1. เทน้ำมันตัวพาลงในขวด
  2. รวมน้ำมันหอมระเหยเข้ากับกลิ่น โดยค่อยๆ เติมเบสโน้ตทีละหยด จากนั้นตามด้วยมิดเดิ้ลโน้ต และท็อปโน้ตจะใส่ท้ายสุด โดยอัตราส่วนที่เหมาะสมคือ 20% 50% และ 30% ตามลำดับ
  3. เทแอลกอฮอล์ลงไปเพื่อช่วยผสานส่วนผสมและกระจายกลิ่น
  4. เขย่าขวดแรงๆ ประมาณ 60 วินาทีเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  5. ปิดฝาขวด แล้วปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 2 วันในที่มืดและเย็น หรือทิ้งไว้ 4 – 6 สัปดาห์เพื่อให้แน่ใจว่ากลิ่นโน้ตต่างๆ ผสมผสานเข้ากันดี

หลังจากที่น้ำหอมถูกบ่มตามระยะเวลาที่ต้องการแล้ว ให้ดมน้ำหอมอีกครั้งเนื่องจากกระบวนการบ่มอาจทำให้กลิ่นเปลี่ยนไป หากเป็นกรณีนี้ ให้เติมโน้ตกลิ่นที่ต้องการอีก 2 – 3 หยด เมื่อคุณพอใจกับกลิ่นของน้ำหอมแล้ว ให้เจือจางน้ำหอมด้วยการเติมน้ำกลั่น 2 ช้อนโต๊ะ หรือกลีเซอรีน 5 หยดเพื่อรักษากลิ่นหอมเอาไว้ หากกลิ่นหอมแรงเกินไป สามารถเติมน้ำเพิ่มเพื่อเจือจางกลิ่นได้ จากนั้นใช้กรวยและที่กรองกาแฟ เทน้ำหอมลงในขวดแก้วที่สะอาดอีกใบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผ่นกรองได้กรองเศษต่างๆ ที่เกิดจากกระบวนการบ่มออกจนหมด เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำหอมไว้ใช้เอง แถมยังมีกลิ่นเฉพาะตัวอีกด้วย

ข้อควรระวัง

  1. อย่าผสมกลิ่นที่มากจนเกินไป ลองดมกลิ่นแต่ละกลิ่นและพิจารณาว่าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดีหรือไม่ เพราะการมีโน้ตมากเกินไปอาจทำลายกลิ่นหอมได้
  2. ในการทำความสะอาดภาชนะขวดแก้ว ให้ล้างด้วยน้ำร้อนจัด จากนั้นวางลงในถาดสำหรับอบ แล้วอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 110 องศาเซลเซียส เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรค

จะเห็นว่าการทำน้ำหอมใช้เองนั้นไม่ได้ยุ่งยากเลย แค่เพียงเข้าใจในเรื่องของส่วนผสม กลิ่น และวิธีทำน้ำหอมอย่างถูกต้อง เพียงเท่านี้ก็จะสามารถรังสรรค์กลิ่นที่คุณโปรดปราน และสร้างกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงบุคลิกและสไตล์ของคุณได้ หลังจากที่ทาน้ำมันมะกอก สรรพคุณบำรุงผิวกายแล้ว ลองตามด้วยการฉีดน้ำหอมที่คุณทำเอง เพื่อเพิ่มความหอมยาวนานตลอดวัน ซึ่งน้ำหอมทำเองนั้น ไม่ว่าจะทำใช้เองก็ดี หรือทำให้เป็นของขวัญ คนรับก็ถูกใจอย่างแน่นอน

“มองหา เบสสบู่ สินค้าเกี่ยวกับสบู่ อุปกรณ์ทำสบู่ สนใจผลิตสบู่ ทำ OEM, ODM ลองทักมาคุยกับเราได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ”


อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : sciencenotes.org, wikihow.com, scrapality.com

Featured Image Credit : freepik.com